The Steakhouse Co. ร้านสเต๊กน้องใหม่ของย่านพัฒพงษ์ที่จะพาคนรักเนื้อขึ้นสวรรค์
การมาเยือนพัฒพงษ์ครั้งไหนๆ ล้วนแต่เป็นประสบการณ์เปิดโลกของเราเสมอ เบื้องหน้าซอยที่มีเสียงอึกทึกสอดแทรกออกมาตามหน้าร้านบาร์มืดสลัวอาจเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของย่าน “โคมแดง” (red-light district) บนถนนสีลมสายนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าท่ามกลางบรรดาร้านโซ่แซ่กุญแจมือ (SM บาร์หน้าปากซอยจะมีลุงคนนึงถือไม้เรียวยาว พร้อมตะโกนว่า SM Show ด้วยนะ) จะมีสเต๊กเฮาส์ที่ขายเนื้อจริงจังอย่าง The Steakhouse Co. มาเปิดกับเขาด้วย
เบาะหนังสีแดงก่ำ กำแพงอิฐเปลือย และเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม คือส่วนผสมอันลงตัวที่ขับให้บรรยากาศของ The Steakhouse Co. ดูสบายน่านั่งไม่ต่างจากร้านอาหารสไตล์ตะวันตกทั่วๆ ไป กระนั้นทางร้านก็แสดงชัดถึงความเป็นตัวจริงเรื่องบุชเชอร์รี โดยนำเอาภาพถ่ายวัวแผ่นยักษ์มาแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ส่วนตรงกลางร้านยังมีตู้แช่เนื้อ Dry Age ที่ให้เราเห็นเนื้อขนาดมหึมาพร้อมลายไขมันแซมสวยๆ
ประเดิมความอลังการงานสร้างด้วย สลัดบีทรูท (270) ที่ผสมผสานความเค็มจากเฟตต้าชีส และความหวานมันของมะม่วงสุกไว้ได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นจาน starter ที่เหมาะมากก่อนจะไปเปิดเกมมื้อใหญ่ ส่วนใครที่อยากมีอะไรไปถ่ายลง IG story สวยๆ ล่ะก็ ลองสั่ง Shrimp Cocktail (320 บาท) ที่คลุ้งไปด้วยควันจากน้ำแข็งแห้ง เสิร์ฟกุ้งเนื้อเด้ง มาพร้อมกับซอส thousand island ที่เปรี้ยวกำลังดี
ขึ้นชื่อว่าเป็นสเต๊กเฮาส์ คงไม่ได้เสิร์ฟเนื้อเกรดโนเนมแน่นอน ทางร้านมีออปชันเนื้อให้เลือกหลากหลายที่คนสายเนื้อน่าจะคุ้นหูกันดี ไล่มาตั้งแต่ USDA จนถึง Black Angus และเนื้อเกรดพรีเมียมต่างๆ เราแนะนำให้สั่ง Australian Black Angus sirloin (2,075 บาท/ 400 กรัม) ที่ผ่านการดรายด์เอจมานานถึง 120 วัน เสิร์ฟมาคู่กับซอส “bearnaise” ที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพร เค็มมันด้วยรสไข่ หรือจะสั่งเป็น Argentinian striploin (1,275 บาท/ 400 กรัม) เนื้ออาร์เจนติเนียนชิ้นเบ้ง ที่มาพร้อมกับมะเขือเทศเกรติน สอดไส้ด้วยชีสและผักโขม (รสอ่อนๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเลี่ยนแบบเรา) พอรวมกับซอสเห็ดไวน์แดงที่มาคู่กัน ก็ช่วยเสริมรสขึ้นไปอีกขั้น
แม้เราจะแอบเห็นรายการเครื่องดื่มค็อกเทลติดหลาบนกระดานบาร์ไม้สีเข้ม แต่ทางร้านดูจะมีไวน์ลิสต์ที่น่าสนใจมากกว่า เฮาส์ไวน์ของที่นี่มีราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 215 บาท แต่ใครที่อยากทำตัวแฟนซี ให้ลุคแพงๆ อาจลองสั่ง Domaine du Chene Chardonnay (1,900 บาท/ขวด) ที่ให้อาฟเตอร์เทสต์สดชื่นเล็กน้อย แต่หากใครชอบอะไรหวานๆ ก็ต้องเป็นตัววอดก้าซอลต์คาราเมล (105 บาท/ช็อต) ที่เรายังหลงรักรสสัมผัสและกลิ่นหอมคาราเมลจนถึงตอนนี้
