ฟังเสียงแร็ปเปลี่ยนชุมชนกับ “บุ๊ค” ธนายุทธ ณ อยุธยา แร็ปเปอร์หนุ่มที่หวังพัฒนาชุมชนคลองเตยด้วยเสียงเพลง

เพลงแร็ปกำลังมา!
5 years 8 months ago
By BK Staff | Aug 09, 2018

ธนายุทธ ณ อยุธยา หรือบุ๊ค แร็ปเปอร์หนุ่มในวัย 17 ปี คือหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงานแร็ปแบ็ทเทิล “This is Klong Toey Compton” เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รวบรวมบรรดาศิลปินแร็ปเปอร์และคนในชุมชนกว่า 48 ชีวิตมาแข่งขันฝีปากเพลงแร็ปกันในงาน ทาง BK ได้พูดคุยกับบุ๊คถึงเหตุผลเบื้องหลังในการจัดงาน และแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เขาสนใจในศาสตร์ของการแร็ปในทุกวันนี้

 

จุดเริ่มต้นของ This is Klong Toey Compton

ผมเคยเป็นเด็กติดเกม ใช้เวลาวันหนึ่งอยู่กับหน้าคอมพ์ในร้านอินเตอร์เนตไม่ต่างจากเด็กคลองเตยคนอื่นๆ จนกระทั่งวันนึง ได้ยินน้องชายผมเปิดเพลงแร็ป ก็รู้สึกสนใจ เริ่มหิ้วสปีกเกอร์ไปแร็ปตามสวนสาธารณะประมาณอายุ 12-13 พอเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็เคยจัดอีเวนต์ในร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีคนดูเกือบ 200 คนได้ เห็นแบบนี้ก็เลยอยากจัดอีเวนต์อีกรอบ ตอนนั้นผมใช้เงินเก็บทั้งหมด แล้วก็หาสปอนเซอร์เพื่อมาเป็นเงินรางวัลสำหรับจัดงานนี้ เคยมีเด็กประมาณ 7 ขวบเดินมาถามผมว่า ถ้าเขาอยากเป็นแร็ปเปอร์ ควรเริ่มต้นยังไงดี ณ ตอนนั้นเองผมจึงตัดสินใจว่าจะต้องจัดงานนี้ให้ได้  

 ทำไมถึงใส่ชื่อเมือง Compton มาไว้ในแคมเปญ

คลองเตยก็เหมือนคอมป์ตันนะผมว่า ละแวกนี้หากมองจากภายนอก อาจดูดิบ ใครเห็นก็รู้สึกหวาดๆ เพราะติดภาพจำว่าเป็นแหล่งมั่วสุมของหัวโจกที่จับกลุ่มเสพยา แต่เอาเข้าจริงที่นี่กลับซ่อนของดีไว้ตั้งหลายอย่าง เลยอยากให้คนเข้ามารับรู้ถึงความงามของย่านนี้ด้วย

ตอนนั้นมีคนเข้าร่วมงานกี่คน ผู้เข้าร่วมงานเด็กสุดอายุเท่าไหร่

มีคนเข้าร่วมเกือบ 300 คนเลยนะ ตอนนั้นเด็กสุดที่มากันก็วัยกระเตาะกระแตะราวๆ 2-3 ขวบจับมือตามพ่อแม่มา ส่วนแร็ปเปอร์ที่เข้าแข่งเด็กสุดก็อายุ 12

สไตล์ของแร็ปเปอร์คลองเตยคืออะไร

พวกเราชอบวิพากษ์อะไรที่ “อันตราย” ที่หลายคนเลือกจะเลี่ยงไม่พูดถึงกัน

คาดหวังอะไรบ้างจากการจัดงานนี้

เด็กคลองเตยมีของเยอะนะ มีหลายเรื่องพร้อมเล่าอยากบอกต่อ ผมเป็นคนชอบแร็ปมาก เลยอยากให้เขาเห็นว่าการแร็ป ก็เป็นวิธีเล่าเรื่องแบบหนึ่งเหมือนกัน

รู้สึกยังไงกับวงการฮิปฮอปไทยในตอนนี้
วงการนี้โตขึ้นเรื่อยๆ นะ เดี๋ยวนี้พอมีอินเตอร์เน็ต เพลงก็เป็นที่รู้จักได้ง่ายกว่าเดิม แต่คนฟังก็ยังเป็นกลุ่มเล็กๆ อยู่ ผมก็ได้แต่หวังว่าคนจะหันมาฟังเพลงฮิปฮอปไทยเยอะขึ้น  

ทำไมถึงเลือกฮิปฮอป

ผมกับน้องชายมีแม่คนเดียวกันก็จริง แต่แม่ไม่เคยยอมรับผมเป็นลูก ผมสนิทกับน้องนะ เขาเป็นคนแรกที่ช่วยเปิดโลกเพลงแร็ปให้กับผม พอแม่ผมเสีย ญาติฝั่งแม่ ก็เอาน้องผมไป ทุกวันนี้ผมไม่รู้เลยว่าน้องผมอยู่ที่ไหน ช่องทางติดต่อก็ไม่มี รู้แค่ว่าเขาย้ายไปอยู่โคราช ครั้งหนึ่งเคยตามไปหาน้องที่โคราช แต่ก็หาไม่เจอเพราะตัวเมืองใหญ่มาก ผมเลยพยายามใช้เพลงแร็ปเป็นสื่อกลาง เผื่อว่าวันหนึ่งน้องจะหาผมพบ เพราะยังไงผมก็เชื่อว่าน้องยังตามเพลงแนวนี้อยู่

นิยามของเพลงฮิปฮอปของเราคืออะไร

เพลงฮิปฮอปเนี่ย คือการที่เราได้เล่าเรื่องชีวิตตัวเองผ่านบทเพลง ประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมา ความสุข ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อส่งสารไปให้คนดูได้รับรู้

ได้ยินว่าเรามีกิจกรรมแร็ปที่โรงเรียนด้วย

ผมเสนอกับทางโรงเรียนว่าอยากจัดชมรมแร็ปขึ้นมา จนตอนนี้มีสมาชิกราวๆ 30 คนแล้ว โดยกว่าครึ่งของชมรมเป็นผู้หญิง ทุกคนที่นี่ล้วนมีของและใจเด็ดมาก หลายคนเขียน rhyme เอง บ้างก็เข้าร่วมแข่ง Rap Battle ด้วย  

แล้วหลังจากนี้ว่าจะทำอะไรต่อ

ช่วงตุลาฯหรือไม่เดือนพฤศจิกาฯ ผมอยากจัดงาน This is Klong Toey Compton อีกรอบ

ช่วงนี้ฟังผลงานของศิลปินฮิปฮอปคนไหนอยู่บ้าง

ผมฟังเพลงของ Eminem เพราะเขาเคยประสบปัญหาชีวิตมาเยอะเหมือนกับผม ส่วนศิลปินไทยก็มีฟังเพลงของ YOUNGOHM พี่เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน สอนอะไรๆ เกี่ยวกับฮิปฮอปทั้งวิธีแร็ปให้ผมตั้งหลายอย่าง ถึงตอนนี้สิ่งที่ผมทำอาจจะยังดูไร้สาระในสายตาใครหลายคน แต่ผมว่าเวลาจะทำอะไร ก็ต้องเชื่อในตัวเองแล้วก็ยึดมั่นกับมันต่อไปมากกว่า  

โตขึ้นอยากเป็นอะไร

ผมอยากเป็นศิลปิน ไม่ก็คนจัดอีเวนต์นะ ต่อไปจะได้ทำอีเวนต์แบบนี้เยอะๆ

 

สัมภาษณ์โดย ชลธนัตถ์กัญจน์ ธัญอติรุจ

LEAVE A COMMENT