Before
ขอเกริ่นก่อนว่าก่อนลงเรียนคลาสทำขนมที่ BearyTales เราเคยมีประสบการณ์ไปเรียนทำขนมหนึ่งครั้ง ตอนนั้นได้ไปเรียนในห้องใหญ่ๆ มีนักเรียนเป็นสิบคน จำได้ว่าโดนจับคู่กับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และมีอาจารย์ติดไมโครโฟนสอนเราทำอยู่หน้าห้อง เราก็มองดูวิธีทำในจอทีวีแล้วก็ทำตามไป แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่เคยลงเรียนที่ไหนอีกเลยเพราะส่วนตัวรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่นัก ทำเองก็ไม่ค่อยจะถูก แต่ไม่ต้องกลัวนะว่าเป็นมือใหม่แล้วจะทำขนมไม่ได้เวลาเข้าคลาส ไม่ว่าหนุ่มๆ สาวๆ อายุเท่าไหร่ก็ตาม โดยเฉพาะคลาสทำเค้กเรด เวลเว็ทที่เราเพิ่งได้ไปทดลองมา  รับรองว่าทุกคนทำได้แน่นอน! แต่จะดีงามขนาดไหน ต้องตามไปอ่านให้จบจ้า! 

เราเดินทางถึง BearyTales Baking Studio ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี บ้านเลขที่ 15 ในซอยสตรีวิทยา 2 (ซอย 17) นั้นหาได้ไม่ยาก ภายในรั้วนั้นเต็มไปด้วยสีเขียวสบายตาจากสวนหย่อม เราเดินเข้าไปในสตูดิโอพร้อมกับได้รับการต้อนรับจากเชฟเอมี่ อาจารย์สอนของเราในวันนี้
 
 
 
ภายในสตูดิโอมีลักษณะเหมือนครัวสีขาวสะอาดสไตล์โมเดิร์นที่ใครๆ อยากเป็นเจ้าของ มีการตกแต่งด้วยไอเทมน้องหมี น้องกวาง อยู่ทั่วๆ ห้องอย่างกำลังพอดี พร้อมกับดนตรี easy-listening สบายๆ เราจิบน้ำแร่ที่ทางสตูดิโอได้จัดเตรียมไว้ ก่อนที่จะเตรียมใส่เสื้อกันเปื้อนสไตล์นิปป้อนให้เรียบร้อย และเตรียมเข้าประจำที่ตรงบริเวณเคาน์เตอร์สีขาวกลางห้อง
 
 
ขอบอกไว้ก่อนว่าที่ BearyTales รับนักเรียนมากสุดเพียง 3 คน เท่านั้นสำหรับคลาสกลุ่ม และเปิดสอนคลาสไพรเวทสำหรับนิวบี้อย่างเราที่ไม่มีความมั่นใจในการทำขนมสุดๆ ดังนั้นมั่นใจได้ว่ามีการดูแลเป็นอย่างดี และได้ลงมือทำด้วยตัวเองแน่นอน!

Work in Progress
 
 
 
ตอนแรกเชฟเอมี่ก็อธิบายเมนูที่เราจะทำในวันนี้ เริ่มจากการอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ว่าโดยธรรมชาติแล้วเค้กเวลเวทต้องมีลักษณะเป็นอย่างไร โดยมีการเตรียมสูตรอย่างละเอียดขึ้นหน้าจอ และตวงส่วนผสมทุกอย่างไว้ให้เราอย่างเรียบร้อยแล้วเพื่อเราจะได้โฟกัสกับวิธีทำอย่างเต็มที่ อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เราได้ใช้ใหม่เอี่ยมอ่อง แถมน่ารักอีกด้วย ตั้งแต่ผ้ากันเปื้อนที่เชฟได้ซื้อมาจากญี่ปุ่น จนไปถึงเครื่องมือทุกชิ้น ส่วนผสมที่ใช้ก็คุณภาพดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Cacao Barry ผลไม้จากโครงการหลวง จนไปถึงวานิลลาแท้ๆ และไข่ออร์แกนิก ทั้งนี้เชฟก็เทียบโปรดัคต่างๆ ให้เราฟังเลย ว่าแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ตามไปหาซื้อทำเองได้ที่ไหน แค่นี้ก็จินตนาการไปไกลแล้วว่าอยากมีครัวแบบนี้เป็นของตัวเองบ้าง 
 
 
 
 
งานนี้ถือว่าได้ออกแรงแขนห้อยๆ ของเราอยู่เหมือนกันนะ เพราะต้องมิกส์แบทเทอร์ด้วยเครื่อง สลับกับใช้ไม้พายด้วยตนเองทั้งสิ้น ซึ่งทุกๆ สเต็ปเชฟจะคอยดูว่าเราทำถูกต้องหรือไม่ และอธิบายเหตุผลไปด้วยว่าสิ่งที่ทำอยู่มันทำไปเพื่ออะไร อย่างการผสมบัตเตอร์มิล์ค การวอร์มเตาไว้ก่อน การตีแป้ง รวมทั้งสิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตเวลาดูว่าส่วนผสมของเรานั้นเข้าที่พร้อมนำเข้าเตาหรือยัง แน่นอนว่าเราต้องทำเองทุกขั้นตอน ไม่มีโกงนะ! 
 
 
 
 
หลังจากได้ส่วนผสมส่วนเค้กเข้าเตาเรียบร้อย ก็ได้เวลาพัก! 
 
 
 
ลืมบอกไปเลยว่าทุกไพรเวทคลาสนั้นจะมีเครื่องดื่ม และขนมที่รังสรรค์โดยเชฟเอมี่เองมาเสิร์ฟให้เราได้ทานกันระหว่างที่รอเวลาขนมอบให้เสร็จ มีทั้งน้ำชา Fortnum และชาจากญี่ปุ่น วันนั้นเราได้ชิมมาการอง และเค้กช็อคโกแลตมูส รสชาติกลมกล่อมอร่อยเหาะมาก! (ที่สำคัญทุกอย่างรวมอยู่ในค่าเรียนแล้วด้วย)
 
พอเริ่มอยู่ท้องกันหน่อย เชฟก็พาเราไปเดินเล่นในสวน เพราะเชฟปลูกผักผลไม้สมุนไพรหลายๆ อย่างที่ใช้ในคลาสเหมือนกันนะ เราก็เดินไปตัดต้น rosemary มาซักสองสามต้น รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยล่ะ 
 
 
 
 
 
 
พอเค้กเสร็จเรียบร้อยออกจากเตาพอดี เราก็เริ่มเข้าขั้นตอนผสมครีมชีส และเริ่มปาดครีมลงบนตัวเค้ก เชฟเอมี่ลงมือทำอย่างคล่องแคล่ว เราเองก็เอ๋อบ้างอะไรบ้าง ครีมไม่เรียบเท่ากันเล้ย! แต่เชฟบอกไม่เป็นไร ของแบบนี้ต้องใช้เวลาฝึกฝน เราเองก็อยากได้สไตล์ Pinterest อยู่แล้ว จะบิดเบี้ยวหน่อยก็คงไม่เป็นไร  
 
 
แล้วก็เริ่มหั่นสตรอว์เบอร์รี่ และปักวางลงบนเลเยอร์ครีมตามใจเราเลย เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยด้วย rosemary ที่เราเก็บมาสดๆ พร้อมกับโรยด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งหน่อยๆ เหมือนหิมะ ถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย!
 
 

After
 
คลาสนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ไม่ได้รู้สึกเหมือนมันนานขนาดนั้นเลยนะ เพราะมีกิจกรรมให้ทำตลอดเวลา ส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่าคลาสนี้ไม่ได้ยากเกินเอื้อมเลยนะ ซึ่งทำให้เราแปลกใจมากเพราะโดยปกติแล้วเราไม่ค่อยมีสกิลในเรื่องการอบขนมซักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากทุกๆ ขั้นตอนได้เชฟมาดูแลอยู่ตลอด เลยไม่มีช่วงตอนไหนที่มีปัญหา แน่นอนว่าการแต่งหน้าอาจจะมีเพี้ยนไปบ้างตามความสามารถ แต่ก็ได้ผลงานออกมาจากเรียบร้อย เราเองก็เพลินกับการถ่ายรูปไปด้วย เพราะสตูดิโอน่ารัก เรียบง่าย แต่สวยสะอาดตามาก มั่นใจว่าถูกใจสาวๆ แน่นอน 
 
 
เชฟเอมี่ก็ให้สูตรเรากลับมา พร้อมกับจัดผลงานของเราใส่กล่องให้เรียบร้อย ก่อนจะแนะนำว่าควรนำไปแช่ตู้เย็นไว้เพื่อตัวเนื้อครีมจะได้เซ็ตตัวดีขึ้น และแนะนำให้นำออกมาวางไว้ในอุณหภูมิห้องซักพักก่อนจะลุยหม่ำกัน 
 
 
ผลลัพธ์ - หมดเกลี้ยง!

ส่วนตัวแล้วนิวบี้อย่างเราก็เชื่อว่าคลาสนี้เหมาะมากสำหรับคนทุกพื้นฐานนะ แต่ละเมนูราคาอยู่ที่ 3,500-4,900 บาท/คน ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะคิดว่าฝึกฝีมือทำเองตาม youtube ก็ได้ ตามสูตรในเน็ตไปก็โอเค คลาสที่ถูกกว่านี้ก็มี แต่จากการที่ได้เห็นวัตถุดิบต่างๆ ที่เราได้ใช้ และผลงานที่เราได้กลับมาจาก BearyTales เราคิดว่าคลาสที่นี่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากโรงเรียนสอนทำอาหารที่อื่นมาก อาจจะไม่ได้เจอเพื่อนใหม่กลุ่มใหญ่ยักษ์ แต่เราได้ความเป็นส่วนตัว ความใกล้ชิดจากอาจารย์ เราเองยังรู้สึกเหมือนได้เข้าไปใช้เวลา 2 ชั่วโมงในโลก Pinterest สวยๆ ที่คงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าคุ้มค่าราคาและเวลาแน่นอน  

ดังนั้นถ้ากำลังหาสถานที่เรียนทำขนมไว้เป็นของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับคนพิเศษในครอบครัว อยากมาผ่อนคลายและเพิ่มทักษะไปพร้อมๆ กัน เราว่ามาถูกที่แล้ว!

Details
- เมนูละ 3,500-4,900 บาท/คน
- ใช่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45นาที - 2 ชั่วโมง 15 นาที  
- ตารางเรียน และเมนูสำหรับคลาสอื่นๆ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.chefamie.com
- แนะนำให้ขับรถส่วนตัวไป ลงทางด่วนเกษตร-นวมินทร์ จะสะดวกกว่านะ 
 
BearyTales Baking Studio By Chef Amie 
 
เชฟเอมี่-ชุติมณฑน์ จันเหมือนอยู่ในวงการดีไซน์และโฆษณามาพักใหญ่ ก่อนที่จะหันมาเป็นเพสทรีเชฟหลังจากที่ได้ผ่านการเล่าเรียนที่สถาบัน Le Cordon Bleu รวมทั้งคอร์ส Art of Coffee-Making นอกจากนี้ยังศึกษาด้านโภชนาการอาหารจากประเทศอังกฤษ ส่วนสตูดิโอ BearyTales นั้นเปิดเฉพาะคอร์สส่วนตัว และคอร์สกลุ่มขาดย่อม (ไม่เกิน 3 คน) ด้วยความเชื่อที่ว่าคลาสใหญ่ๆ นั้นไม่สามารถให้ประสบการณ์กับนักเรียนได้อย่างเต็มที่ ส่วนลิสต์เมนูขนมต่างๆ สามารถเข้าไปชมตัวอย่างได้ทางเว็บไซต์เลย!
 
*เนื่องจากคลาสมีขนาดเล็ก แนะนำให้จองล่วงหน้านะ เพราะเต็มเร็วมากจริงๆ นะ ตอนนี้เต็มไปถึงกรกฎาคมแล้วจ้า!  
BearyTales Baking Studio 13-15 ถนนสตรีวิทยา 2 (ซอย 17) โทร. 086-895-5508 LINE: amievilla www.ChefAmie.com 

ครั้งต่อไปเราจะพาไปทำกิจกรรมอะไรสนุกๆ อีกในกรุงเทพฯ อย่าลืมติดตามนะ : )