คนกรุงเทพฯ ที่เป็นลูกหลานคนจีนอาจจะติดภาพจำของย่านเยาวราชในฐานะแหล่งซื้อของจับจ่ายสำหรับวันไหว้เจ้า จนอาจไม่ทันสังเกตกระแสใหม่ๆ ของบรรดาคาเฟ่และร้านรวงตกแต่งถูกจริตเหล่าฮิปสเตอร์ที่ผุดขึ้นมาตามตรอกซอยของไชน่าทาวน์แห่งนี้ เพราะหนึ่งในร้านที่ได้รับความสนใจล้นหลามในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นคือ Lhong Tou Cafe คาเฟ่สไตล์จีนร่วมสมัยที่นำเอาจานสตรีทฟู้ดของย่านเยาวราช มายกเครื่องใหม่ให้ดูกิบเก๋และน่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากขึ้น

Lhong Tou Cafe ตั้งอยู่บริเวณแยกเฉลิมบุรี ที่เชื่อว่าหากใครเดินผ่าน ย่อมสะดุดตากับป้ายไฟนีออนสีแดงซึ่งขดเป็นตัวอักษรจีนอยู่หน้าร้าน เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านใน จะพบว่าภายในร้านไม่ได้คับแคบอย่างที่คิด เพราะด้วยดีไซน์ร้านที่เพิ่มกระจกบานใหญ่ (ที่คอนวินซ์เราว่ามีที่นั่งเหลืออีกเยอะ) ประกอบกับการจัดโซนที่นั่งเป็นล็อคๆ จึงไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าร้านแออัดเท่าไหร่

ในส่วนของอาหารก็แทบไม่ต้องเดาว่าทางร้านต้องเสิร์ฟเมนูที่ชาวเราคุ้นเคย ทว่า Lhong Tou Shumai (69 บาท) กลับมีทวิสต์เล็กๆ และหมัดเด็ดตรงไส้หมูและกุยช่ายที่อัดแน่นจนเกือบทะลักแป้งขนมจีบบางๆ กินคู่กับซอสรสหวานแล้วเข้ากันดี ส่วนใครที่อยากเติมพลังหลังเดินสำรวจย่านเยาวราชจนเหนื่อย ควรสั่ง Chinese Breakfast Set (129 บาท) ที่เสิร์ฟเซ็ทอาหารเช้าสไตล์จีนในรูปแบบของอเมริกันเบรคฟาสต์ ประกอบด้วยข้าวต้ม ถั่วต้ม ไข่เค็ม เกี่ยมฉาย หมูหยอง กุนเชียง ไชโป๊ต่างๆ ที่ชวนให้เรานึกถึงกับข้าวกับปลาที่อาม่าชอบทำเวลาวันไหว้

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ทางร้านมีเมนูน่าเอามาถ่ายลงอินสตาแกรมอยู่หลายจาน และจานที่ควรค่าแก่การสั่งมาถ่าย (และใส่เข้าปาก) ก็คือ Egg Lava Bun (29 บาทต่อชิ้น) ซาลาเปาทอดไส้ครีมลาวาซึ่งภายนอกกรุบกรอบ ทอดมาได้เหลืองทองสวย จัดมุมนิดหน่อยก็ได้ยอดไลค์ทะลุเป้า ส่วนรสชาตินั้นก็นับว่าใช้ได้ ไม่หนีจากมาตรฐานของย่านเยาวราชเท่าไหร่ แนะนำให้สั่งมาทานคู่กับ Dirty (85 บาท) กาแฟเอสเพลสโซ่แยกชั้นนมสด จะคนก่อนหรือดื่มไปรวดเดียวก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้ากาแฟไม่ใช่ทางและโหยหาแอลกอฮอล์มากกว่า ทางคาเฟ่ยังมีคราฟต์เบียร์นำเข้ากับค็อกเทลอย่าง Chinese Lynchee Wine (240 บาท) ที่ให้รสชาติออกฟรุ๊ตตี้หน่อยๆ ให้ลิ้มลองกันด้วย

 58 ถ.เยาวราช

 อังคาร-อาทิตย์ เวลา 09:00-21:00 น.

 085-824-6934