กิน(ของ)ดีรับต้นเดือนกับ 6 ร้านอาหารเปิดใหม่รอบเมืองกรุงเทพฯ

ตามไปดูร้านอาหารเปิดใหม่ประจำเดือนพฤษภาคม
5 years 11 months ago
By | May 24, 2018

Koi Restaurant

อาหารที่นี่เป็นเมนูลูกผสมระหว่างญี่ปุ่นและออสเตรเลียน โดยการนำเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดจากแดนปลาดิบมาเพิ่มลูกเล่นให้ดูมีความเป็นฝรั่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูอย่างเค้กข้าวเกรียบสไปซี่ทูน่าและข้าวผัดเนื้อวากิวมันบดก็อร่อยใช้ได้ทั้งคู่ แต่ด้วยความที่สาขาใหม่ของ KOI เดิมเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นติดไนท์คลับยักษ์ใหญ่อย่าง Ce La Vi บาร์ของที่นี่จึงมิกซ์เครื่องดื่มค็อกเทลได้ยอดเยี่ยมมาก แนะนำให้สั่งมาร์ตินีลิ้นจี่กุหลาบมาดริงก์สักแก้วให้พอกรึ่มๆ แล้วไปจัดเต็มกันต่อที่ Ce La Vi 

 

Nihon Saiseisakaba

ใครที่ไม่ชอบเครื่องในอาจต้องเปลี่ยนใจหากได้ลองเมนูเสียบไม้จาก Nihon Saiseisakaba อิซากายะเชนดังจากญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องศาสตร์การย่างเครื่องในแบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า ‘โมทซึยากิ’ จนเปิดไปแล้ว 20 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมถึงในไต้หวันและฮ่องกง สำหรับเมนูไม้เสียบของที่นี่ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิดโดยเริ่มต้นเพียงไม้ละ 29 บาทเท่านั้น ในส่วนของเมนูเบสิคของทางร้าน คือ ตับหมูคั่วกระเทียมหัวหอมเสียบไม้และลิ้นวัวปิ้ง เนื้อที่ย่างสุกกำลังดีติดเกรียมเล็กน้อย อร่อยมากจนต้องสั่งเพิ่ม หากใครใจกล้าหน่อยแล้วอยากลองของแปลกกว่านั้น เราแนะนำให้สั่งหัวใจหมูที่ย่างจนไม่เหลือกลิ่นคาว เหลือไว้แต่รสชาติและเนื้อสัมผัสกรุบๆ ของตัวหัวใจปิ้ง แต่ถ้าใครไม่ไหวกับเครื่องในจริงๆ ที่ร้านยังมีเมนูข้าวญี่ปุ่นให้ฝากท้องกันได้ ลองสั่งข้าวหน้าไก่เทอริยากิคู่กับซึคุเนะลูกชิ้นพร้อมกับคอลเลกชันสาเกและดราฟต์เบียร์ Asahi ของทางร้าน ก็นับว่าเป็นความฟินหลังเลิกงานที่แท้จริง

 


KUTAI French Thai cuisine

Kutai เป็นภาษาเมาคลี แปลว่าหอยแมลงภู่ (ไม่ได้อ่านว่า “กูไทย” แต่อย่างใด) ที่นี่จึงขายอาหารทะเลที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยอยู่ด้วย เราแนะนำให้พาก๊วนเพื่อนมาทานร้านนี้ในวันอังคาร เพราะทางร้านมีโปรโมชัน ‘oyster party’ ให้เราเต็มอิ่มไปกับหอยนางรมฟินเดอแคลร์ตัวใหญ่พิเศษที่บอกเลยว่า ยิ่งสั่งเยอะ ยิ่งลดเยอะ ส่วนใครอยากลองหอยแมลงภู่ซิกเนเจอร์ให้สมกับมาถึงร้านทั้งที ลองสั่ง Mussels marinieres (390 บาท) หอยแมลงภู่หม้อใหญ่ที่มีน้ำซุปให้เลือกได้ถึง 5 รส เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและมันฝรั่งทอดกรอบมาเป็นเครื่องเคียง

 


Bangkok Marriott Hotel The Surawongse

หากใครเคยได้ยินชื่อเมนู “ไก่อบฟาง” มาก่อน ก็น่าจะพอเดาอายุได้ว่าคงเป็นคนมีอายุมากพอสมควร เพราะหากย้อนไปในสมัยที่บ้านเมืองเรายังไม่มีรถไฟฟ้า เมนูนี้ถือเป็นจานฮิตติดชาร์จ เรียกได้ว่าเป็น “สเต็กโทมาฮอคว์” ของยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ตัวเมนูเป็นการนำเอาไก่ทั้งตัวไปย่างจนสุกกำลังดี จากนั้นจัดลงจานก่อนจะราดวิสกี้แม่โขงแล้วแฟลมเบ (flambe) เพื่อกระตุ้นความตื่นเต้นของแขกในห้องอาหาร โดยพระยาคิทเช่น ห้องอาหารไทยนานาชาติเปิดใหม่ของโรงแรม Bangkok Marriotte Surawongse ได้จับมือกับคุณเอ็กซ์-อรรถพล เชฟประจำโรงแรมเครือแมริอ็อท เพื่อรื้อฟื้นเมนูเก่าแก่ของไทยให้แขกผู้มาเยือนได้ลิ้มลองกันอีกครั้ง ในส่วนของอาหารอย่างอื่น เชฟเอ็กซ์ยังมีเมนูเด็ดอย่างหอยทอดสูตรพิเศษและหลนปูสูตรภาคใต้ที่มีความหรอยแรง ได้ทั้งกลิ่นและรสเครื่องเทศอย่างชัดเจน

 

Mallard

ดูจากการตกแต่งร้านที่ใช้วัสดุไม้สีเข้ม พร้อมกับถ้วยรางวัลประกอบการล่าสัตว์ที่วางเรียงรายอยู่ภายในร้าน เราก็คงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าร้าน Mallard นั้นเป็นร้าน Farm to Table อย่างที่คุยไว้ไม่มีผิด สำหรับอาหารของทางร้านได้เชฟ Mehmet Sumet ผู้ช่ำชองในศาสตร์อาหารนอร์ดิค มารังสรรค์เมนูอย่างสเต็กทาทาร์ท็อปเห็ดทรัฟเฟิล (330 บาท) และเซ็ทอาหารทะเลจานใหญ่ (690 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วยกุ้ง ปู หอยแมลงภู่ และหมึกระดองตัวยักษ์ ที่เชฟได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลสูตรพิเศษมาแพร์ริ่งไว้ให้ดื่มคู่กันอีกด้วย แต่หากใครอยากสั่งอะไรให้เข้ากับบรรยากาศร้านแล้วล่ะก็ ที่นี่มีเมนูของป่าอย่าง สตูว์แก้ม-ลิ้นวัว (420 บาท) รสสัมผัสละมุนลิ้น เข้ากันกับแครอท ถั่ว เห็ดป่า และมันฝรั่งบดที่ท็อปลงมาในชามเป็นอย่างดี

 

Saawaan

ในยุคที่ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ กำลังผันตัวเป็นไฟน์ไดน์นิ่งกันมากขึ้น อย่าง Le Du ก็เป็นอาหารไทยที่ผ่านกรรมวิธีทำอาหารแบบฝรั่งเศส Nahm เองก็เน้นความเป็นไทยต้นตำรับ ส่วน Sra Bua ก็ใช้โมเลกูล่ากาสโตรโนมีในการรังสรรค์อาหาร Sawaan จึงเป็นร้านที่ได้นำเอาจุดเด่นของแต่ละร้าน มารวมกันจนออกมาเป็นเทสติ้งเมนู 10 อย่างที่มีความแปลกใหม่ แต่ก็คงรสชาติตามสูตรไทยแท้ๆ เอาไว้ นอกจากนี้ทางร้านยังมีออปชันชาแพร์ริ่งที่จะจัดชาชนิดพิเศษให้เข้ากับอาหารแต่ละจานอีกด้วย

 

 

 

 

LEAVE A COMMENT